Saturday, April 28, 2012

My First Espresso (เอสเพรสโซ่แก้วแรก)


พอเริ่มพูดถึงกาแฟ ศัพท์เทคนิคยอดฮิตที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ คือ “Espresso” ไอ้เจ้า Espresso ที่แหละที่เคยสร้างความมึนและงงไม่ใช่น้อยให้กับผมเมื่อนานมาแล้ว เรื่องราวตอนนั้นเกิดขึ้นในหน้าหนาวของปี 2011 หลังจากเหตุการณ์ World Trade Center ไม่นาน
World Trade Center Collapse 2001
อากาศที่หนาวมากในตอนนั้นทำให้คนเมืองร้อนอย่างผมที่เพิ่งมีโอกาสสัมผัสความหนาวที่เกือบถึงจุดเยือกแข็ง ต้องหันหน้าเข้าหา กาแฟสิ่งที่คิดว่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้ ร้านที่เลือกจะโผล่เข้าไปก็ไม่พ้นร้านที่เราๆรู้จักกันดีนั่นแหละครับ คิดอยู่ว่าถ้าโผล่ไปที่ร้านอื่นๆคงจะงงน่าดู เมนูไม้ตายอย่าง Coffee Frap ไม่สามารถช่วยชีวิตได้อีกต่อไป ผมจำความความรู้สึกกดดันตอนที่ไปยืนรอสั่งกาแฟได้เป็นอย่างดี ยืนงงๆ ดูเมนูนานๆคิวยาวๆ คราวนี้ศึกษาเมนูกันก่อนจะตรงไปสั่ง ความโง่บวกกับความงก สิ่งที่กระแทกตาผมที่ชัดมาก คือ Espresso เพราะเป็นสิ่งที่ถูกที่สุด ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นน่าจะประมาณ 2 เหรียญกว่าๆ ในขณะที่เมนูอื่นนั้นมีราคามากกว่า 3 เหรียญทั้งหมด เอาล่ะในเมื่อตัดสินใจได้ก็ตรงดิ่งไปสั่งทันที 1 Espresso, Please … ด้วยความหวังว่าจะช่วยคลายความหนาวได้ สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นแก้วกาแฟที่เบามากๆ
Starbucks Espresso
งงกันไปข้างนึง แบบนี้มันจะช่วยให้หายหนาวได้มั้ยวะเนี่ย ความงงที่มากกว่านั้น คือ ไอ้แก้วที่ถืออยู่ในมือเนี่ย เค้ากินกันยังไง เอาวะ เดินตามชาวบ้านเค้าไปละกัน เดี๋ยวลอกๆเค้าคงจะพอไหว ร้ายกว่าเดิมครับ ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ มีกระติกหลายๆอันวางอยู่ Hot Water … Whole Milk … Half & Half … Skim
Starbucks Milk
ทำไงดีวะกู บ้านเรามีแค่น้ำตาลกับน้ำเชื่อมเองนะ เอาวะกินมั้นทั้งแบบนี้แหละ ขอบอกว่าขมโคตรๆ ทุกๆคนคงนึกภาพออก แล้วแก้วแค่นี้มันจะหายหนาวมั้ย ผมไม่รู้และก็ไม่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วว่า Espresso มันคืออะไร และไม่เคยสนใจเลยจน 10 ปีผ่านไป ถึงรู้ว่าเอสเพรสโซ่คืออะไร
Brewing Espresso


Espresso ไม่ใช่ชื่อของเมล็ดกาแฟ หรือประเภทของผงกาแฟ แต่เป็นเครื่องดื่มที่ได้จากกระบวนการชงประเภทหนึ่ง ในทางเทคนิค เอสเพรสโซ่ คือเครื่องดื่มที่ชงจากเครื่องชงกาแฟที่ทำงานภายใต้ความดัน และน้ำร้อนที่เหมาะสม คือความดันระหว่าง 0.9-1.2 บาร์ ด้วยน้ำร้อนที่ 88-95 องศา สกัดผ่านผงกาแฟ ประมาณ 6.5-7 กรัมต่อเอสเพรสโซ่หนึ่งช้อต ด้วยแรงดันปั้มน้ำทำงานที่ 9 บาร์ โดยระยะเวลาของการสกัดอยู่ที่ 25-30วินาที ได้เอสเพรสโซ่ 30 มิลลิลิตร หรือ 1 ออนซ์ ประกอบด้วยกลิ่นหอมอโรมา ครีม่า สีน้ำตาลทองมีความหนาประมาณ 3 มิลลิลิตร เหนียวหนืด ลอยอยู่ด้านบน ที่เกิดจากน้ำมันและน้ำตาลที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ และส่วนที่สุดท้ายคือบอดี้กาแฟ หรือที่เรียกว่าเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับลิ้น ในปากของเราเมื่อดื่มเอสเพรสโซ่เข้าไปแล้ว

Wednesday, April 18, 2012

Kaffa Amore Intro (จุดเริ่มต้นของ Kaffa Amore)



Traditional Thai Coffee Brewing
ก่อนที่จะเริ่มเวิ่นเว้อไปกันเยอะในรายละเอียดอันมากมายมหาศาล ขอเกริ่นสักนิดนึงก่อนครับ ถึงที่มาที่ไปก่อนที่ผมจะมีความสนใจในเครื่องดื่มที่เรียกว่า กาแฟหรือ “Coffee” ในภาษาอังกฤษ หรือ “Caffeé”ในภาษาอิตาเลียนนั่นเอง ผมยอมรับเลยว่าโดยส่วนตัวผมนั้นไม่เคยมีความสนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว สำหรับผมกาแฟไม่เคยช่วยให้หายง่วงได้ (หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลังก็ตาม) ไม่ว่าจะแรงแค่ไหนสามารถหลับได้หลังจากดื่มเสร็จในทันที กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ผมรู้สึกว่าไม่อร่อย (ถ้าไม่ใส่น้ำตาล หรือไม่ก็ชงแบบบ้านเรา โดยการเทน้ำร้อนผ่านถุงเท้าแล้วก็ใส่นมข้นและน้ำแข็ง) ผมมองกาแฟเป็นขนม ไม่เคยดื่มกาแฟร้อน ถ้าจะเลือกดื่มจริงๆก็คงต้องเป็นแบบเย็นหรือแบบปั่นแล้วอัด Whipped Cream เยอะ ที่เวลาเราไปที่ร้านกาแฟแล้วสั่งว่า Coffee Frappuccino with Whipped
Starbucks Frappuccino
ดู Professional ขึ้นมาหน่อยมั้ยครับ ชื่อนี้เป็นชื่อที่ขึ้นใจผมมากแล้วก็ไม่เคยมีความสามารถสั่งอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่านี้ได้ แถมยังเคยนึกในใจว่าจะกินกาแฟสักแก้วทำไมมันยากจังวะ สาเหตุหลักที่ต้องจำ Menu นี้ให้ขึ้นใจก็คือ การเข้ามาของร้านกาแฟชื่อดังร้านในช่วงเริ่มแรก ซึ่งตอนนั้นยังเป็นสิ่งที่ใหม่มากในสังคมไทย ก่อนที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนบางกลุ่ม เวลาที่เราที่ร้านไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ แล้วทำตัวเงอะงะอยู่ตรง Counter หรือ Cashier มันเป็นสถานการณ์ที่กดดันมาก ซึ่งหลายๆคนคงรู้สึกเหมือนผม ดังนั้นจึงต้องเลือกสิ่งที่เป็น Menu ไม้ตายไว้สักอย่างหนึ่ง ซึ่งจริงๆแล้วการที่ได้รู้จัก Menu นี้ก็มาจากการแอบดกกาแฟของเพื่อนคนหนึ่ง แล้วรู้สึกหวานๆมันๆเหมือนขนมดี เลยถามมันว่าไอ้นี่มันเรียกว่าอะไรวะ นี่ยังไม่รวมขนากของขนาดแก้วนะครับที่มีตั้งแต่ Short, Tall, Grande และ Venti จะบ้าตายกินกาแฟแก้วละเป็นร้อยทำไมมันยากแบบนี้เนี่ย ขอเก็ยเรื่องรามความเห่ยไว้พูดตอนพูดถึง Espresso ละกัน เดี๋ยวจะเบื่อไปกันใหญ่
Starbucks Cup Size
หลังจากนั้นผมก็ใช้วิธีนี้เป็นแบบแผนในการดื่มกาแฟมาเป็นเวลานานจนถึงปี 2011 นับดูดีๆก็กว่าทศวรรษครับ จนได้มีโอกาสได้ดู Trailer หนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า The Green Hornet ที่นำแสดงโดย Super Star Asia คนดังที่วัยรุ่นกรี้ดกันแทบบ้า ใน Trailer ของหนังเรื่องนี้นั้นมีกาชงกาแฟที่มีการวาดลายใบไม้ลงบนผิวด้านบนของกาแฟ บอกตรงๆครับว่าอึ้งมาก ผมควายมากที่ไม่เคยรู้เลยว่ามีศิลปแบบนี้ในโลกของเครื่องดื่มชนิดนี้ โลกแคบโคตรๆ และ Latte Art อันนั้นแหละครับที่เปลี่ยนมุมมองของผมและสร้างโลกใหม่ให้กับผมเกี่ยวกับเครื่องดื่มชนิดนี้
Latte Art Scene in The Green Hornet Trailer
ต้องขอขอบคุณ Jay Chou และ Michel Gondry ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ เพราะถ้าไม่มี Scene นั้นในวันนั้น ผมก็ยังคงมีโลกที่อยู่ในกะลาต่อไป และไม่รู้ว่าวันไหนจะมีใครเปิดกะลาให้ผมได้โผล่ออกมาสักที แล้วมาติดตามดูกันนะครับว่ากบอย่างผมจะสามารถมาแชร์อะไรให้ทุกท่านได้รู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มยอดฮิตสุดฮิบของชาวอิตาเลียนกันได้บ้างครับ แล้วเจอกันในตอนต่อไปครับ