Wednesday, August 1, 2012

Is this coffee or gold? - Part I (กาแฟหรือว่าทอง? - ตอนที่ 1)


จากตอนที่แล้วที่ได้มีการแตะเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกาแฟในมุมแคบและกว้างไปบ้างแล้ว วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ในมุมที่หรูหราและมีค่าจนบางครั้งเราคิดว่า นี่มันกาแฟหรือว่าทองกันวะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่สามารถหาบริโภคได้ในเกือบทุกซอกทุกมุมในบ้านเรา (ถ้าจะแพ้ก็แค่ส้มตำ) จะเป็นเมล็ดพืชที่มีมูลค่ามากขนาดนี้
ซึ่งจริงๆก็อยากจะทราบเหมือนกันครับว่ากระบวนการที่สร้างสรรค์ให้เมล็ดพืชที่มีเมล็ดอยู่สองเมล็ดในผลเดียวชนิดนี้นั้นมาจากการใช้น้ำแร่จากโปแลนด์มารด การเก็บโดยใช้เครื่องมือที่ทำจากแร่ Platinum การตากโดยใช้แสงแดดจากเทือกเขาเอเวอร์เรส หรือการคั่วโดยใช้เม็ดมะขามเพื่อเพิ่มมูลค่าก็ตาม ชักจะเวิ่นอีกแล้ว เอาล่ะครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่าเมล็ดกาแฟที่แพงที่สุดในโลก 10 อันดับมีอะไรบ้าง

Kopi Luwak (Indonesia) ระดับราคาตั้งแต่ $115 ถึง $590 / 500 กรัม
Kopi Luwak
Kopi Luwak หรือ กาแฟขี้ชะมด (โชคดีที่เป็นชะมด) เป็นเมล็ดกาแฟที่มาจากการกินเมล็ดกาแฟดิบจากต้น หรือ Coffee Cherry โดยชะมดท้องถิ่นพันธ์หนึ่งที่เรียกว่า Common Palm Civet ซึ่งมีความเชื่อว่าชะมดมีประสาทสัมผัสในการเลือกกินเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุด และสุกที่สุด รวมถึงระบบการย่อยของชะมดที่สามารถทำให้เปลือกของเมล็ดกาแฟสุมตรานั้นถูกลอกออกได้ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลทำให้เมล็ดกาแฟนั้นมีรสชาติหวานมากขึ้น โดยที่เมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการย่อยโดยชะมดนั้นจะถูกเก็บด้วยมือจากพื้นป่า ฟังดูจากกระบวนการตามธรรมชาติมี่ซับซ้อนมากขนาดนี้ก็คงไม่แปลกใจที่เมล็ดกาแฟจะมีราคาแพง และถือว่าเป็นเมล็ดกาแฟที่แพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ครับ

Hacienda La Esmeralda (Boquete, Panama) $100 / 500 กรัม
Esmeralda
เมล็ดกาแฟจากประเทศปานามาสายพันธ์นี้ได้ปลูกอยู่ที่ระดับความสูงที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร เมล็ดกาแฟชนิดนี้ได้ทำสถิติในการประมูลหลายต่อหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเมื่อถูกประมูลที่ราคา $21 / ปอนด์ในเดือนมิถุนายน 2004 อีกครั้งหนึ่งที่ราคา $50.25 / ปอนด์ในเดือนพฤษภาคม 2006 ครั้งต่อไปที่ราคา $130 / ปอนด์ในเดือนพฤษภาคม 2007 และที่ราคาสูงถึง $170 / ปอนด์ในเดือนพฤษภาคม 2010 เมล็ดกาแฟจาก Panama ชนิดนี้เป็นผลผลิตจากต้นกาแฟที่เติบโตในร่มเงาของต้นฝรั่ง (อะไรมันจะขนาดนั้นวะ?) ได้ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นอย่งาดีในเรื่องของรสชาติและกลิ่น และยังเคยได้รับเลือกเป็นเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดโดย Specialty Coffee Association of America หรือ SCAA หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน

Island of St. Helena Coffee Company (St. Helena) $80 / 500 กรัม
Island of St. Helena
กาแฟสายพันธ์ไฮโซชนิดนี้ปลูกอยู่ในเกาะ St. Helena หรือ Island of St. Helena ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่ง Africa ถึง 1,200 ไมล์ กาแฟสายพันธ์นี้ได้มีการเพาะพันธ์มากจากสายพันธ์มากจากประเทศเยเมน Yemen ในปี 1730 สำหรับเรื่องนี้ต้องขอบคุณท่าน Napoleon Bonaparte ผู้ที่ริเริ่มกล่าวถึงกาแฟชนิดนี้โดยการยกย่องถึงกาแฟของเกาะแห่งนี้เมื่อเท้าของนักรบคนนี้ได้เหยียบลงบนเกาะแห่งนี้ในอดีต แต่กาแฟจากเกาะนี้ได้หายไปจากความสนใจของแวดวงกาแฟโลกกว่าศตวรรษ จนกระทั่ง David R. Henry เริ่มการส่งออกเมล็ดกาแฟชนิดนี้อีกครั้งในช่วงเริ่มต้นของยุค 90’s สำหรับผลผลิตของเมล็ดกาแฟชนิดนี้จะค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ระดับประมาณ 12 ตันต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่ความต้องการเมล็ดกาแฟชนิดนี้จะค่อนข้างสูงตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่เคยเรียนมาครับ

El Injerto (Huehuetenango, Guatemala) $25 / 500 กรัมสำหรับสารกาแฟดิบและราคาที่มากกว่า $50 / 500 กรัมสำหรับเมล็ดกาแฟคั่วแบบปลีก
El Injerto
เมล็ดกาแฟที่มีสเน่ห์จาก El Injerto ประเทศกัวเตมาลาชนิดนี้ได้ถูกเตรียมการอย่างเป็นพิเศษสำหรับ The Cup of Excellence Auction ซึ่งเป็นรางวัลที่เมล็ดกาแฟจากไร่กาแฟคุ้นเคยดีโดยได้รับรางวัล Cup of Excellence ครั้งแรกในปี 2006 ต่อมาในปี 2008, 2009, 2010 และ 2012 และในเดือนมิถุนายน 2012 ที่เพิ่งผ่านมานี้เองเมล็ดกาแฟชนิดนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการกาแฟด้วยราคาในการประมูลที่สูงถึง $500.50 / ปอนด์ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดราคาหนึ่งที่เคยถูกประมูล การประมูลครั้งนี้ทำให้ El Injerto เป็นเมล็ดกาแฟระดับแถวหน้าในวงการ สำหรับประเภทของ El Injerto ที่ดีที่สุดนั้นเป็นมอคค่า 100% ซึ่งเป็นสายพันธ์จากประเทศเยเมน ลักษณะเมล็ดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยขนาดของเมล็ดจะเล็กประมาณ 1/3 ของเมล็ดกาแฟทั่วๆไป ซึ่งถือว่าพิเ ศษและหายากมากในโลกนี้

Fazenda Santa Ines (Minas Gerais, Brazil) $50 / ปอนด์สำหรับสารกาแฟดิบในการประมูล
Fazenda Santa Ines is available here
เมล็ดกาแฟจากประเทศบราซิลชนิดนี้เป็นเมล็ดกาแฟที่เคยได้คะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Cup of Excellence ด้วยคะแนนที่รวมที่สูงถึง 95.85 จาก 100 คะแนน ผลผลิตของเมล็ดกาแฟที่มีในการประมูลนั้นมีปริมาณจำกัดและน้อยมาก โดยสารกาแฟดิบเหล่านี้จะถูกซื้อโดย Caffe Artigiano จากประเทศแคนนาดาและโรงคั่วกาแฟ 2 เจ้าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งคุณคงไม่สามารถจะหิ้วเมล็ดกาแฟคั่วเป็นถุงกลับบ้านได้ถ้าเกิดติดใจขึ้นมา แต่คงสามารถหาชิมได้เป็นแก้วๆเท่านั้นที่ Caffe Artigiano หรือร้านกาแฟชั้นนำจริงๆทั่วโลก